20.12.20Script Blog to World Wide Web!

Possibly Connected


⌨️🖱️🧑‍💻…💻🪪✍️


“เมื่ออ่านเรื่อง เจียงเฟ แล้วให้คิดอย่างนี้ ว่า, เมื่อโลก มันยังมิได้ เป็นโลกใบเดียวกัน หรือพลโลกเดียวกัน, ดังนี้ การเป็นฝักฝ่าย หรือการรบแตกหัก ก็คงจะยังต้องเกิดขึ้น ในโลกนี้ เอง, ที่เรา อาจจะพูดถึง เรื่อง ที่ยาวไกล หน่อยว่า เมื่อ ความแตกหักโกลาหล ครั้งที่สุด ในโลกเกิดขึ้นแล้ว ก็คง จะเป็น เวลาของโลกใหม่ คือ นับ! ขึ้นต้น สมัย พระพุทธาภิสมัย ที่ ๕ โน่นแล้ว, แล อันแดน Phutthanachak Suwannaphum ก็พึง แต่จะคงนับอยู่ ในเรื่อง ด้วย,


ซึ่ง ก็คง จะได้เห็น หรือ ได้พิจารณา กันมากนัก แล้วว่า ครั้ง เมื่อ ปรากฏ พุทธกัป ก็ย่อม ต้อง นับว่า กัป! คือ พุทธภพ ฉะนั้น เอกภพ ฉะนั้น หรือ มหาจักรวาล อันเนื่องนับ ไปแต่ สัตว์ผู้ อาจ ตรัสรู้ชอบ ไปด้วย ฉะนั้น ย่อม ปรากฏ ชัดว่า คือ วาระ ที่ โลก และ จักรวาล เช่นนั้น มีการ ถือบวช! เป็นใหญ่ และเป็นหลัก เป็นเกณฑ์ เป็นร่อง เป็นรอย อัน อำนวย เรื่อง ต่าง ๆ ทั้งแก่จิต วัตถุ แลความพ้น วาระ เช่น อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ในห้วงแห่ง เวลานี้ จึง ย่อม รู้ กันอยู่แล้วว่า การ บวช! เป็น อำนาจ และความเป็นใหญ่ โดยความเป็นอยู่ เป็นจริง ของ ตลอดกัป!


ซึ่งเรื่อง ที่แถลง หรือแสดงตัวชัดเจน ที่ออกมา จากคัมภีร์ตำรา ของศาสนาพุทธ แล้ว ย่อม ให้แต่ความตระหนัก ที่ปรากฏ ไปด้วย ซึ่ง โลก ๖ คู่ ๙ อย่าง ดังต่อไปนี้, อนึ่ง คือเรื่อง พระไทย แลพระศรีลังกา แลโลก ที่ครองบ้านครองเรือนกันอย่างเวียดนาม, และ คือเรื่อง พระจีน แลพระญี่ปุ่น และโลก ที่ครองบ้านครองเรือนกันอย่างเกาหลี, และด้วยเรื่อง ที่ครอบคลุมที่เดียว ที่ใหญ่ ที่สุด เพราะผลกระทบ ก็คือ เรื่อง พระอินเดีย แลพระฝรั่ง แลโลก ที่ครองบ้านครองเรือนกันอย่างอเมริกา, ดังนี้ เมื่อคิดตาม อย่างที่เขา เล่าเรื่อง เจียงเฟ แถลงอยู่นี้


ดังกล่าว นั่นเอง แดน Phutthanachak Suwannaphum นี้ นั่นเอง, เมื่อคราว ที่ต้องจบสิ้นกัป! จบสิ้นยุค มาถึงแล้ว และก็เชื่อ ลางบอกเหตุ หรือการค้นความประวัติ กันแต่โดยมากแล้ว มักแต่เชื่อ กันตามตรงว่า สงคราม หรือเหตุร้ายแรงขั้นแตกหัก แห่ง Phutthanachak Suwannaphum นี้ จะเกิดขึ้นเมื่อ Phitsanulok ปะทะ ทำลาย กันสิ้นลงไป กับ Nakhon Si Thammarat ไป จรด กัน ถึงขั้นแตกหัก!, นับ! ก็คือ เป็นเรื่อง ส่องทาง หรือส่งทาง หรือ ทอดเรื่อง ไปสู่ พระพุทธาภิสมัยต่อไปนั่นเอง, ส่วน ในเรื่อง พระพุทธาณาจักร แบบของฝรั่ง หรืออินเดีย เช่นนั้น ก็คง จะเป็น การ ปะทุ แลปะทะ กัน ของ แดนอเมริกา ทั้งเหนือ-ใต้


ดังนี้ ข้าพเจ้า เห็น และพิจารณาโลก ไปอย่างนี้ แบบนี้ , ว่า แดนอาหรับ แลแอฟริกา นั่น ก็รวมไปในพระฝรั่ง และพระอินเดียไปอย่างนั้น, ซึ่ง เป็นไป ในลักษณะ ที่จะก่อร่าง สร้าง พระพุทธาณาจักร เช่นเดียว เช่นกัน กะเรานี่แหละ, ซึ่ง แต่ แดน Phutthanachak Suwannaphum นี้ จะสถาปนา ทุกสิ่ง ด้วย Aksonariyaka ได้สำเร็จเสร็จสมบูรณ์ ก่อน ๆ เขาเลยทีเดียว , เพราะ พระจีน พระญี่ปุ่น และบ้านเมืองแบบเกาหลี ก็ไม่ทันเราได้เลย เพราะ การภาษา หรือ การตั้งสถิต การตราภาษา เขามิได้ มีระเบียบที่ สมบูรณ์บริบูรณ์ดีเท่าเรา เป็น แต่ทางสร้างฝอย เท่านั้น หรือ ได้แต่น้ำเท่านั้น มิได้เนื้อ ไม่เท่ากัน กะแดน ที่จะสถาปนา ไปได้เลย ด้วยอักษรอริยกะ โดยตรง และพระโคตรภูภิกษุ ฝ่ายตำรา แบบพระอริยเจ้า โดยตรง, แล้วนี้ แบบเรา ในเรื่อง คติ เจียงเฟ!, ให้คิดถึงเรื่อง การต่อสู้ไปได้ว่า , วิบัติ! หรืออุบัติ! ที่แท้ ย่อม สำแดง แสดงชัดอยู่แล้วว่า ปัจเจกภพ! เท่านั้น เป็นส่วนเปรียบ หรือแนว ก่อ! ความสมดุล ไว้ให้สิ่งดี ปรากฏ


แต่ทั้ง นั้น เรื่องพรหม หรือพราหมณ์ ก็เป็นเรื่อง เป็นแนวทาง อย่างพระเจ้าจักรพรรดิ์, เพราะ กัป! ที่ปรากฏ สถิตประโยชน์ ได้ ว่ากัป! ที่มิได้มีการบวชเป็นใหญ่ ฉะนั้น ก็คือ กัปอย่างพระเจ้าจักรพรรดิ์ หรือกัปอย่างพระพุทธปัจเจก นั่นเอง, ซึ่งโลก ปัจจุบันนี้ หรือ ตลอด อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ก็ได้มีเรื่องนี้อยู่ด้วย เรียกว่า การ Protracted อันซึ่งหมายถึง ความปราณี ในการที่จะสร้าง การทำลาย แบบ ยืดยาด หรือ ยืดเยื้อ, ระหว่าง ๓ กลุ่มหลัก คือ กลุ่ม คหบดีมหาศาล ๑, กษัตริย์มหาศาล ๑, และ พราหมณ์มหาศาล ๑, อันซึ่ง ทำสงครามยืดเยื้อ ผ่านวิธีการที่เรียกว่า Likhit ผ่าน ลักษณ์! ที่เรียกว่า อัตรา ทางอาณัติสัญญา, กับการที่ให้เกิดการกำหนดไปแก่ จิต วัตถุ และความเป็นอยู่ เรื่อย ๆ ไปอย่างนั้น, ใน ความมุ่งมาด ปรารถนา แลปรารภ แก่เหตุ และอธิษฐาน แก่มโนรถ และมโนปณิธานของตน โดยความเป็นอยู่ โดยที่ ไม่พ้น จาก Sign ซึ่ง ตั้ง หมาย เอาความเป็นใหญ่อื่นด้วย อันมิใช่แต่แค่พุทธกัป!”